บนโลกใบนี้มีนักเตะฝีเท้าดี ๆ อยู่มากมายเต็มไปหมด บางคนไม่ได้ดีแค่เรื่องของฝีเท้าอย่างเดียวด้วย หากแต่เรื่องนอกสนามก็มีความน่าสนใจที่ไม่แพ้กัน เหตุนี้เอง เว็บไซต์ mensvanity.com จึงได้คัดเลือก 15 นักเตะแข้งทอง ที่น่าสนใจและมีผลงานดีมาตลอดช่วงปี 2011 ฉะนั้นแล้ว เราไปดูกันดีกว่าว่า ทั้ง 15 แข้งทองนั้น จะมีใครกันบ้าง และแต่ละคนจะเก่งกาจและน่าสนใจกันขนาดไหน ตามมาดูกันเลย..
1. ฟร้องก์ ริเบรี่ (Franck Ribery)
ปีกหน้าบากเลือดน้ำหอมคนนี้ คือหนึ่งในนักเตะฝีเท้าฉกาจที่หลาย ๆ ทีมในยุโรปต้องการตัวไปร่วมทีมด้วย ณ ขณะนี้ เขาเป็นกำลังสำคัญให้กับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค (Bayern Munich) ทีมดังแห่งแคว้นบาวาเรีย ของวงการลูกหนังเยอรมัน ด้วยฝีเท้าที่เร็วจัดจ้าน ทักษะเฉพาะตัวชั้นเลิศ รวมถึงความหนักหน่วงในการยิงแต่ละลูกนั้น ทำให้เขากลายเป็นเจ้าชายและขวัญใจแฟนบอลคนใหม่ของค่ายเสือใต้ไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ริเบรี่ ยังเคยได้รับการยกย่องจาก "ซีเนอดีน ซีดาน" อดีตสตาร์ลูกหนังรุ่นพี่ร่วมชาติ ให้เป็น "เพชรเม็ดงาม" ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสอีกด้วย
2. อาร์เยน ร็อบเบน (Arjen Robben)
หากจะพูดถึงนักเตะตำแหน่งริมเส้นสักคนหนึ่ง ที่ถนัดซ้ายโดยธรรมชาติ ลีลาพริ้วไหว ทักษะเฉพาะตัวเป็นเลิศ ยิงได้หนักหน่วง และมีสปีดพร้อมเลี้ยงบอลให้เชื่องเท้าแล้วล่ะก็ ชื่อของ "อาร์เยน ร็อบเบน" จะต้องมีอยู่ในลิสของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน การ่วมงานประสานเกมรุกคู่กับ ริเบรี่ ให้บาเยิร์น มิวนิค ทำให้ ณ ขณะนี้ ทีมดังแห่งเมืองเบียร์มีผลงานที่โดดเด่นมาก ๆ ทั้งการเป็นจ่าฝูงในศึกบุนเดสลีกา และหนทางที่สดใสในศึก "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก"
ลีลาการล็อกหลบคู่ต่อสู้ ก่อนจะทำประตูด้วยการปั่นเท้าซ้ายข้างถนัดอย่างเป็นกอบเป็นกำ คือภาพที่แฟนบอลทั่วโลกต่างจดจำกันได้เป็นอย่างดี และเขานี่แหละ ถือเป็นกำลังสำคัญที่จะพาทีมชาติฮอลแลนด์ไปร่วมศึก "ยูโร 2012" ที่ยูเครนและโปแลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วมกับสตาร์ดัง ๆ คนอื่น ๆ อีกมากมาย
3. แฟรงค์ แลมพาร์ด (Frank Lampard)
มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี (Chelsea) คนนี้ คือบุคคลที่นักฟุตบอลในสมัยนี้ถือเอาเป็นแบบอย่างกันมากมาย ด้วยลักษณะเฉพาะตัวในการเล่นฟุตบอล ทั้งการผ่านบอลในจังหวะสวย ๆ การทำประตู การยิงลูกฟรีคิก และการเปิดบอลที่แม่นยำ คือภาพลักษณ์ประจำตัวของเขาที่ช่วยให้เชลซีประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาล 2004 - 2005 และ 2005 - 2006 รวมถึงในฤดูกาล 2009 - 2010 แลมพาร์ด ถือเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่ช่วยให้เชลซี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นผลสำเร็จ สร้างความชื่นมื่นให้แก่ตัวเขาและแฟนบอลให้ได้จดจำแบบไม่รู้ลืมเลยทีเดียว และแม้ว่าในปีนี้ เขาจะมีอายุที่มากแล้ว แต่เขาเองก็ยังคงเป็นตัวหลักให้ทีมต่อไปเช่นเดิม
4. ซามูเอล เอโต้ (Samuel Eto’o)
ศูนย์หน้าทีมชาติแคเมอรูนรายนี้ สร้างชื่อแบบดังเปรี้ยงปร้างไว้กับ "บาร์เซโลน่า" (Barcelona) เจ้าบุญทุ่มของฟุตบอลสเปน คว้ารางวัลดาวซัลโวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากที่ทำผลงานกระฉูดยิงไปเกิน 100 ประตูในตลอด 5 ฤดูกาลที่ลงเล่นให้บาร์ซ่า จากนั้นเขาเองได้ย้ายมาค้าแข้งอยู่กับยักษ์ใหญ่แดนรองเท้าบูทอย่าง "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) และก็ยังคงเป็นตัวหลักและทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งมาในทุกวันนี้ เขาเองได้ย้ายไปขุดทองและเก็บตังค์อยู่ที่รัสเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลักจากที่ "อันชี่ มาคาชคาล่า" (Anzhi Makhachkala) ทีมฟุตบอลสุดร่ำรวยได้ทุ่มเงินไม่อั้น คว้าตัวเอโต้ไปบรรเลงเพลงแข้งตามที่ได้คาดหมายไว้ แถมการย้ายไปรัสเซียของเขาในครั้งนี้ ยังนำมาซึ่งรายได้ต่อสัปดาห์อันมหาศาลเลยทีเดียว
5. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (Didier Drogba)
กองหน้าอีกหนึ่งรายที่อยู่ในใจหลาย ๆ คนก็คือ "ไอ้แมลงสาบ" ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ชาวไอเวอร์รี่ โคสต์ ของเชลซีนั่นเอง ดร็อกบาถือเป็นนักฟุตบอลที่มีจุดเด่นมากมาย ทั้งด้านสรีระที่สูงใหญ่ แข็งแรง พร้อมท่าชนกับกองหลังสูงใหญ่ได้แบบสบาย ๆ ฝีเท้าคมกริบ ลูกโหม่งก็ไม่เป็นรองใคร แถมด้วยลีาท่าทางในการแสดงความดีใจหลังทำประตูได้ที่ชวนแฟนบอลเกิดอาการหมันไส้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ชื่อของ "ดร็อกบา" กลายเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างมากมาย และแม้ว่าอายุอานามของเขาจะเดินทางเข้าเลขสามแล้ว แต่เส้นทางในการค้าแข้งของเขา ก็ยังคงสดใสและพร้อมทำถล่มประตูอย่างหนักหน่วงได้ทุกเมื่อเหมือนกัน
6. อันเดรส อิเนียสต้า (Andres Iniesta)
เขาคนนี้คือหนึ่งในกองกลางที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็ยกย่องเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า หากมีการจัดอันดับกองกลางที่ดีสุดในโลกแล้วล่ะก็ ชื่อของอิเนียสต้า จะต้องมีติดในระดับท็อป ๆ ของโลกอย่างแน่นอน ความสามรถของเขาในการวิ่งหาพื้นที่ในการเล่นบอล ทักษะการจ่ายบอลที่ไม่เป็นสองรองใคร และการหลุดเข้าไปทำประตูหรือเติมจังหวะเกมรุก เขาเองก็ทำได้ดีแบบดีมาก ๆ เลยด้วย
อย่างไรก็ดี อิเนียสต้า ถือเป็นนักเตะก้นหม้อที่น่าภาคภูมิใจของสโมสรบาร์เซโลน่า เนื่องจากเป็นนักเตะที่มีการพัฒนาฝีเท้าของตัวเองมาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่อยู่ในระดับทีมเยาวชน ไล่มาจนขึ้นทีมสำรอง ก่อนจะมาเป็นตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่และยืนหยัดกับตำแหน่งตัวจริงได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งนอกจากที่ตัวเขาจะมีเกียรติประวัติกับบาร์ซ่ามากมายแล้ว ในนามทีมชาติ เขาก็คือหนึ่งในยอดขุนพลกระทิงดุ ที่สามารถคว้าแชมป์โลก 2010 ที่แอฟริกาใต้มาครองด้วยเช่นกัน
7. นานี่ (Nani)
มิดฟิลด์ตัวริมเส้นที่แฟนบอลชาวไทยเราขนานนามให้แบบน่าเอ็นดูว่า "อาบัง" นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวมากมาย ก่อนหน้านี้ เขาเคยถูกนำไปเปรียบเทียบกับนักเตะรุ่นพี่อย่าง "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" (Christiano Ronaldo) ด้วยลีลาการเล่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน สับขาหลอกคู่ต่อสู้เป็นว่าเล่น ชั้นเชิงก็เทพซะเหลือเกิน นี่เองจึงทำให้นานี่ได้รับการจับตามองจากแฟนบอลและทีมใหญ่ ๆ มากมายไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ในส่วนของการรับใช้ชาตินั้น นานี่ ก็ถือเป็นตัวหลักในการรังสรรค์เกมรุกให้ทีมฝอยทองในการตะลุยเกมรับของคู่ต่อสู้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งก็ต้องมาดูกันต่อไปว่า ทั้งในส่วนของทีมชาติโปรตุเกสและสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นต้นสังกัดของเขานั้น เขานั้นจะมีส่วนช่วยให้ประสบความสำเร็จได้มากน้อยขนาดไหนบ้าง
8. ชาบี เอร์นานเดซ (Xavi Hernandez)
อีกหนึ่งนักเตะระดับมาสเตอร์พีชจากค่ายบาร์ซ่า ผู้นี้คือผุ้ที่ทำหน้าที่ปิดทองหลังพระตัวจริงเสียงจริง ไม่ว่าจะเล่นให้กับสโมสรหรือทีมชาติสเปน การที่มีเอร์นานเดซอยู่ในทีม ถือเป็นขวัญกำลังใจชั้นยอดของเพื่อนร่วมทีมที่จะมั่นใจได้ในระดับหนึ่งเลยว่า ทีมจะทำผลงานได้ดีอย่างแน่นอน สไตล์การเล่นของเขาคือสิ่งที่หลาย ๆ สโมสรต้องการ นั่นก็คือศูนย์กลางของการบัญชาการและการเชื่อมเกมระหว่างแดนหน้ากับแดนหลัง การเปิดบอลที่แม่นยำเหมือนจับวาง การผ่านบอลให้เพื่อนอย่างเหมาะเจาะ และเทคนิคเฉพาะตัวต่าง ๆ ล้วนแล้วมีอยู่ในตัวของเขาทั้งสิ้น และเรา ๆ ท่าน ๆ ก็จะได้เห็นฟอร์มของเขาแบบเต็ม ๆ ในทัวร์นาเมนท์ "ยูโร 2012" อย่างแน่นอน
9. กาก้า (Kaka)
ขึ้นชื่อว่านักเตะแข้งทองนั้น ครั้นจะไม่กล่าวถึง "กาก้า" นักเตะขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่หลาย ๆ คนเห็นทีจะไม่ได้ นอกจากตาอันหล่อเหลาที่ทำเอาสาว ๆ หวั่นไหวกันไปมากมายแล้ว ฝีเท้าและประสบการณ์ของเขาก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ ถึงขั้นที่ว่าเป็นไอดอลของนักเตะรุ่นใหม่ ๆ หลายต่อหลายคนเลยด้วย
เกียรติประวัติของกาก้าทั้งรางวัล "บัลลงดอร์" (Ballon d’Or) และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 2007 ของฟีฟ่า คือสิ่งที่การันตีความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญไปกว่านั้น จิตใจของเขาก็หล่อไม่แพ้ใบหน้าด้วยเหมือนกัน เพราะกาก้าได้ทำงานเพื่อสังคมด้านมนุษยธรรมเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะในปี 2004 เขาได้เป็นทูตเกี่ยวกับอาหารโลก รวมถึงไปสอนทักษะการเล่นฟุตบอลให้เด็ก ๆ ที่ยากไร้ภายใต้โครงการของสหประชาชาติอีกด้วย
10. เวย์น รูนี่ย์ (Wayne Rooney)
ศูนย์หน้าคนสำคัญทั้งของ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มาแรงฟอร์มดีอยู่เรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์อยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้ว เขาถือเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงอีกคนหนึ่งของโลกที่น่าจับตามองมาก ๆ เพราะด้วยอายุอานามที่ยังน้อย จึงทำให้โอกาสในอาชีพค้าแข้งของเขาและการทำประตูทำลายสถิติอย่างเป็นกอบเป็นกำนั้น สดใสมาก ๆ เลยทีเดียว
11. เฟร์นานโด ตอร์เรส (Fernando Torres)
กองหน้าเจ้าของฉายา "แก้มน้ำเงิน" คนนี้ คือกองหน้าที่มีราคาค่าตัวสูงที่สุดในโลก ด้วยค่าตัวที่ 50 ล้านปอนด์ หรือราว ๆ 2,500 ล้านบาท ด้วยการย้ายจาก "ลิเวอร์พูล" (Liverpool) ไปอยู่กับ "เชลซี" (Chelsea) ต้นสังกัดใหม่ สำหรับตอร์เรสแล้ว ถือเป็นกองหน้าที่สร้างชื่อมานับตั้งแต่ที่ค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิดกับ "แอตเลติโก้ มาดริด" (Atletico Madrid) ด้วยทักษะความสามารถเฉพาะตัวที่ดีเลิศ ยิงคม มีความเร็ว คล่องตัวสูง และใช้โอกาสไม่เปลือง เหล่านี้จึงทำให้เขาเป็นที่จับตามองของยักษ์ใหญ่หลาย ๆ ทีม
แม้ว่า ณ ปัจจุบัน ตอร์เรสจะมีปัญหาในเรื่องของความมั่นใจในการเล่นกับเชลซีที่ดูเหมือนจะขาดหายไปจากตัวเขา แต่ผลงานที่ผ่าน ๆ มาก็ถือว่าทำได้ดีสมพอควร ฉะนั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่ตอร์เรสจะยังคงเป็นตัวเลือกในอันดับต้น ๆ ของกุนซือหลาย ๆ คน ที่อยากจะมีเขาไปร่วมทีมด้วยนั่นเอง
12. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (Zlatan Ibrahimovic)
นับตั้งแต่ช่วงปี 2006 เป็นต้นมา ชื่อของอิบราฮิโมวิช เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกมากขึ้น ด้วยความเป็นกองหน้าที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหนักหน่วงในการทำประตูประมาณว่าถุงมือของผู้รักษาประตูไม่ขาดก้นับว่าดีมาก ๆ แล้ว อีกทั้งลูกได้ลูกชนที่แข็งแกร่ง หาจังหวะการทำประตูได้ดี มีสัญชาติญาณของความเป็นศูนย์หน้าอยู่ในตัว นี่เองจึงทำหลายเขาได้มีโอกาสไปร่วมทีมใหญ่ ๆ ของยุโรปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, ยูเวนตุส, อินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า และกับต้นสังกัดในปัจจุบันอย่าง เอซี มิลาน และแน่นอนว่า ด้วยความสามารถระดับนี้แล้ว ค่าตัวของเขาก็พุ่งกระฉูดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
13. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (Cristiano Ronaldo)
แม้ว่าในช่วงแรก ๆ ที่ "โด้จิ้ว" หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะโดนแฟนบอลค่อนขอด หาว่าหวงบอลเกินไป ขี้เลี้ยง ขี้เต๊ะ เอะอะสับขาหลอกคู่ต่อสู้อย่างเดียว จนทำให้ระบบทีมเสียไปหมด แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป เขาเองก็ปรับปรุงตัวและวิธีการเล่นให้ดีมากขึ้น จนในทุกวันนี้ เขาคือมิดฟิลด์คนสำคัญของ เรอัล มาดริด ที่เมื่อลงสนามทีไร คู่ต่อสู้เป็นได้เหนื่อย หอบแฮกกันไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่โรนัลโด้ปฏิบัติมาโดยตลอดก็คือ การรักษาสภาพความฟิตของร่างกายตลอดเวลา ซึ่งนั่นส่งผลให้เขาสามารถลงเล่นแทบจะทุกนัดในตลอดทั้งฤดูกาลได้แบบสบาย ๆ ที่สำคัญไปกว่านั้น ด้วยทักษะอันล้นเหลือของเขา ประกอบกับการที่เขาได้เป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าต่าง ๆ มากมาย จึงเป็นเหตุให้ราชันชุดขาว ยอมลงทุนแบบมหาศาลด้วยการพาตัวเขาออกจากถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 80 ล้านปอนด์ หรือเกือบ ๆ 4,000 ล้านบาท
14. สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard)
เมื่อพูดถึงสโมสรลิเวอร์พูล สิ่งแรกที่หลาย ๆ คนจะนึกถึงกันเสมือนเป็นตัวแทนของสโมสรนั่นก็คือ มิดฟิลด์พลังไดนาโม ผู้ซึ่งเป็นกัปตันของทีม "สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด" ด้วยความมุ่งมั่นเกินร้อย ทุ่มเทไม่มียั้ง เด็ดขาดในการบัญชาเกม คอยกระตุ้นและปลุกเร้าเลือดนักสู้ของเพื่อนร่วมทีมตลอดเวลา รวมไปถึงทักษะด้านลูกหนังที่บู๊ดีเดือด ผ่านบอลแม่นยำ ยิงไกลได้ได้ มีลูกฟรีคิกที่หวังผลได้ และอื่น ๆ อีกมากมายสารพัด จึงไม่แปลกใจเลยที่เขา จะสามารถครองใจแฟนบอลให้รักและศรัทธาได้อย่างเหนียวแน่น
ผลงานเด่น ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นการพาทีมชนะจุดโทษ เอซี มิลาน ก่อนจะครองแชมป์เป็นเจ้ายุโรปสมัยที่ 5 ของสโมสร เมื่อปี 2005 ขณะที่เมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา เขาก็ได้คำชมจาก "ซีเนอดีน ซีดาน" ให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของโลกจากความรู้สึกของซีดานเองอีกด้วย นอกจากนี้ในปี 2010 เจอร์ราร์ด ยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของโลกให้เป็นที่ภูมิใจทั้งกับตัวเขาเองและแฟนบอลอีกด้วย
15. ลีโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)
ปิดท้ายที่สุดยอดนักเตะที่ ณ เวลานี้ หลาย ๆ คนต่างยกให้เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดโลกแล้ว เมสซี่ ได้รับการจับตามองมาโดยตลอดกับทักษะของเขาที่หาตัวจับยาก ลีลาพริ้วไหว ยิงคม เลี้ยงเก่ง แย่งบอลยาก ว่องไว หาพื้นที่ได้ดี จ่ายบอลฉลาด และมีเทคนิคเฉพาะตัวที่ยากจะลอกเลียนแบบ นอกจากนี้ เคยมีคนเปรียบเทียบเขากับ "เสื้อเตี้ย" ดีเอโก้ มาราโดน่า ด้วยว่า เมสซี่นี่แหละคือ "มาราโดน่า หมายเลข 2 " ตัวจริงเสียงจริง
เกียรติประวัติของเขาถือว่าได้เร็วกว่านักเตะดัง ๆ หลาย ๆ คนเสียอีก ทั้งรางวัล บัลลง ดอร์ และนักเตะยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ในวัยเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น แถมยังเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักฟุตบอลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเวลาปัจจุบันของนิตยสาร "ไทม์" (Time) อีกด้วย นอกจากนั้น ปรากฏการณ์ของเขาบนโลกไซเบอร์ ก็ฮอตฮิตไม่แพ้กัน ยกตัวอย่างเช่นในเฟซบุ๊ก ที่เพียงวันแรกที่มีการเปิดเพจอย่างเป็นทางการ ก็มีคนคลิกไลค์เขาไปถึง 6 ล้านคน ซึ่งในเวลาต่อมา มีจำนวนคนคลิกไลค์เมสซี่ไปแล้วกว่า 24 ล้านคนเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น